ภาพรวมตลาด
เศรษฐกิจสเปนเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้น โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนจากทั้ง Fitch และ Moody’s ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2025 การปรับขึ้นเรตติ้งครั้งนี้สะท้อนถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ความแข็งแรงของตลาดแรงงาน และความยืดหยุ่นของระบบธนาคาร ผลลัพธ์คือการลดต้นทุนการกู้ยืมของทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมกับสร้างความมั่นใจด้านเสถียรภาพทางการคลังมากขึ้น กระแสเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ของสเปนจึงมีโอกาสเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยให้ดัชนี ES35 มีศักยภาพฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป
แม้อัตราเงินเฟ้อของสเปนปรับขึ้นสู่ 3.0% ในเดือนกันยายน สูงกว่าเป้าหมายของ ECB แต่การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เกิดจากราคาพลังงานและค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลงช้ากว่าที่คาด ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานกลับเริ่มชะลอลงเล็กน้อย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดคาดว่า ECB จะยังคงดอกเบี้ยไว้ในการประชุมปลายเดือนตุลาคมต่อเนื่องเป็นครั้งที่สาม ความคาดหวังเช่นนี้ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของทิศทางนโยบายการเงินในยูโรโซน ลดแรงผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และเอื้อให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแรงอย่างสเปน
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยืนยันความแข็งแรงของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดย GDP ไตรมาส 2 เติบโต 0.8% แบบไตรมาสต่อไตรมาส สูงกว่าทั้งการเติบโตในไตรมาสก่อนและการประเมินเบื้องต้น การขยายตัวดังกล่าวได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 0.8% การลงทุนรวมที่เติบโตถึง 1.8% และการส่งออกที่ขยายตัว 1.3% แม้อุปสงค์จากต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนฐานเศรษฐกิจภายในที่แข็งแรงและช่วยลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
ในขณะเดียวกัน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยเฉพาะภาคพลังงานที่โตถึง 5.8% และภาคสินค้าขั้นกลางที่ขยายตัว 2% แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตเริ่มกลับมามีแรงส่งใหม่ แม้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เมื่อผนวกเข้ากับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่งและการปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือแล้ว ยิ่งทำให้ภาพรวมของสเปนดูมั่นคงขึ้น ส่งผลบวกโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และช่วยเพิ่มโอกาสให้ดัชนี ES35 เดินหน้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องได้ในช่วงต่อไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ES35
สามารถปรับตัวขึ้นทะลุกรอบแนวต้านสีแดงได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงหนุนต่อเนื่องในตลาด โดยการทะลุระดับดังกล่าวขึ้นมาเป็นการยืนยันว่าฝั่งขาขึ้นยังคงครองความได้เปรียบ และมีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางบวกได้มากขึ้น ทั้งนี้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 16,000 จุด ซึ่งถือเป็นระดับสำคัญที่จะใช้วัดศักยภาพของโมเมนตัมการขึ้นรอบนี้ อย่างไรก็ตาม หากในระยะสั้นราคาหลุดแนวรับบริเวณ 14,600 จุดลงมา ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นเริ่มอ่อนแรง และแนวโน้มมีโอกาสกลับตัวลงได้อีกครั้งในภาพรวม
ES35 (DAILY)
