ภาพรวมตลาด
เศรษฐกิจฮ่องกงเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนี PMI ภาคเอกชนปรับขึ้นสู่ระดับ 50.7 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งนับเป็นการกลับเข้าสู่โซนขยายตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สะท้อนว่าความต้องการภายในประเทศเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งการผลิตภาคเอกชนยังปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 แม้ว่าคำสั่งซื้อต่างประเทศจากจีนแผ่นดินใหญ่และตลาดโลกยังคงซบเซา แต่การที่อัตราการจ้างงานเริ่มกลับมาฟื้นตัวเล็กน้อย แสดงถึงความยืดหยุ่นเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนบรรยากาศเชิงบวกของดัชนี HK50 ที่สะท้อนภาพรวมธุรกิจและบริการในตลาด
ด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ ยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ โดยดัชนี CPI เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเพียง 1.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าหลายประเทศและยังอยู่ในกรอบที่บริหารจัดการได้ แม้ราคาสินค้าบางประเภท เช่น ค่าเช่าที่อยู่อาศัยและการขนส่ง จะขยับขึ้นบ้าง แต่ราคาสินค้าคงทนและเสื้อผ้ากลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อโดยรวมไม่สูงจนกระทบต่อนโยบายการเงิน ภาพเช่นนี้เอื้อต่อภาคธุรกิจและตลาดทุน เพราะอัตราเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนซึ่งมีบทบาทสำคัญในเชิงนโยบายของภูมิภาค ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แม้เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีนยังเลือกใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง และพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมในไตรมาสสุดท้ายของปี เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโต GDP ที่ 5% การรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อเนื่องเช่นนี้อาจดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นฮ่องกง โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและอิงการบริโภคภายใน
แม้ตลาดหุ้นฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมาเผชิญแรงขายรุนแรงในหุ้นเทคโนโลยี แต่แรงพยุงจากหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานยังคงเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายยังคงทรงตัวในระดับสูง ซึ่งสะท้อนว่าความสนใจของนักลงทุนยังไม่หายไป การที่ JPMorgan ตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนการถือครองใน Alibaba ก็เป็นสัญญาณบวกที่ชี้ให้เห็นว่ากองทุนสถาบันยังมองเห็นโอกาสในตลาดนี้ หากจีนเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแรงซื้อเริ่มไหลกลับเข้าสู่หุ้นเติบโต ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ HK50 จะสามารถฟื้นตัวต่อได้ โดยได้รับแรงหนุนจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ และสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยที่เอื้ออำนวย
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
HK50
ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งและสามารถยืนเหนือกรอบแนวต้านสีแดงได้อย่างมั่นคง สะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังคงหนุนราคาต่อเนื่องและทำให้แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยในขณะนี้เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ระดับแนวต้าน 28,600 จุด ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ตลาดจับตามองว่าจะสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากในระหว่างทางราคาปรับตัวลงมาและหลุดกรอบแนวรับบริเวณ 24,500 จุด ก็อาจทำให้โมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรงและส่งสัญญาณการกลับตัวลงได้ แต่ตราบใดที่ราคายังเคลื่อนไหวเหนือกรอบแนวรับดังกล่าว แนวโน้มขาขึ้นก็ยังมีโอกาสเดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง
HK50 (DAILY)
